Facebook ประกาศในวันนี้ชุดเครื่องมือ เพิ่มความเป็นจริงสำหรับ Messenger ที่ บริษัท กำลังเรียกใช้ "World Effects" ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางวัตถุ 3D แบบเรียลไทม์ลงในรูปถ่ายหรือวิดีโอภายในกรอบกล้องได้ เทคโนโลยีนี้สร้างขึ้นจากฟีเจอร์ AR ที่มีอยู่ของ Facebook เช่นความสามารถในการเพิ่มตัวกรองและมาสก์ในหน้าด้วยตนเองและได้รับการออกแบบมาเพื่อทำให้ Messenger โต้ตอบกันมากยิ่งขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากสมรรถนะวิสัยทัศน์ของคอมพิวเตอร์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นของสมาร์ทโฟน ชุดแรกของเอฟเฟ็กต์ของโลก ได้แก่ หัวใจลอยลูกศรหุ่นยนต์ 3 มิติและยูนิคอร์นรวมทั้งคำพูดที่มีข้อความที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเช่น "love" "heart" และ "miss you"
ความคิดคือการทำให้ Messenger มีชีวิตชีวาและมีหลายมุมมองมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อที่จะสามารถแข่งขันกับ Snapchat ได้และ Facebook หวังที่จะล่อลวงผู้ใช้ที่มีอายุน้อยกว่าของ Snap Snapchat เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ ในเดือนเมษายนเรียกว่าเลนส์ระดับโลก แต่ Facebook กล่าวว่ามันเพิ่งเริ่มต้น บริษัท เปิดตัวแพลตฟอร์ม AR เป็นระยะเวลา 8 เดือน ที่ผ่านมาในที่ประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ F8 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของวิสัยทัศน์ของโลกที่สามารถระบุวัตถุได้ทุกรูปแบบและด้วยกล้องสมาร์ทโฟนในแบบเรียลไทม์ซึ่งคล้ายคลึงกับคุณลักษณะเลนส์ที่มีอยู่ของ Google แต่ยังเพิ่มขึ้น ใช้การจดจำวัตถุและภาพเคลื่อนไหว 3 มิติ ตัวอย่างเช่นถ้วยกาแฟที่แท้จริงสามารถบันทึกการแสดงคลื่นเสมือนไอน้ำเช่น
ดังนั้นเฟสบุ๊คจึงสามารถแข่งขันกับ Snapchat ได้ไม่เพียง แต่ในสาขานี้เท่านั้น แต่รวมถึงแอปเปิ้ลและ Google ซึ่งทั้งสอง บริษัท ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม AR ของตนเองนอกเหนือจากการอบคุณลักษณะ AR ใหม่ ๆ ภายในแอปและบริการเคลื่อนที่ของตน Facebook เป็นข้อเสียในแง่นี้ บริษัท อาจมีฐานผู้ใช้อยู่ใกล้หนึ่งในสามของประชากรโลก แต่ก็ไม่มีการควบคุมกล้องถ่ายรูปโดยตรงบนสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นที่เข้าถึงเครือข่ายสังคมเนื่องจากไม่ได้เป็นเจ้าของและใช้งานระบบปฏิบัติการมือถือ
ด้วยเหตุนี้ Facebook จึงเปิดตัวแพลตฟอร์ม AR ซึ่งเรียกว่า AR Studio ให้แก่นักพัฒนาซอฟต์แวร์รายอื่นใน Open Beta เพื่อให้สามารถเริ่มสร้าง App Store ที่มีการแข่งขันเพื่อแข่งขันกับ Apple และ Google ได้ เป้าหมายตอนนี้คือการสร้างกรณีการใช้งานที่น่าสนใจที่สุดสำหรับ AR ซึ่งขณะนี้ดูเหมือนการรับส่งข้อความและใช้เพื่อดึงดูดและรักษาผู้ใช้ไว้ตลอดเวลา ไม่ชัดเจนว่า Facebook สามารถทำเช่นนั้นได้ด้วยชุดเครื่องมือปัจจุบันหรือหากคู่แข่งสามารถก้าวไปข้างหน้ากับความก้าวหน้าของ AR เพื่อป้องกันไม่ให้ บริษัท เข้ายึดครองได้ ดังนั้นในขณะที่ผลกระทบของโลกและเทคนิคอาร์คติกแบบอื่น ๆ อาจดูไม่น่ากลัวบนพื้นผิวพวกเขาจึงเป็นตัวแทนของสมรภูมิเคลื่อนที่ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.theverge.com